องค์ความรู้และภูมิปัญญา


การดำเนินงาน ศูนย์ฮ่วมแฮง ส่างแปงซุมซน (Village Management Warroom)

บ้านปลาข่อ หมู่ที่ ๔  ต.โพธิ์  อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ

 

๑.ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน

          บ้านปลาข่อหมู่ที่ 4 ตำบลโพธิ์  อำเภอโนนคูณ เริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2478   เดิมชื่อบ้านท่าแก้ง ตำบลบก อำเภอกันทรารมย์  จังหวัดศรีสะเกษ   โดยมีครอบครัวของ นายก้อน  นัยเนตร ครอบครัวนายสงค์  ศิริยาน ครอบครัวนายสาย  สมศิริ  และครอบครัวนายกิ่ง  วงศ์ษา   อพยพมาจากอำเภอกันทรารมย์   เป็นผู้ก่อตั้งบ้านปลาแก้ง  ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.  2480 ได้มีราษฎรบ้านหนองปลาเข็ง ได้มาทอดแหหาปลา ที่ลำห้วยขะยุงเป็นประจำส่วนมากจะมีปลาข่อ (ปลาช่อน) เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านได้พูดคุยกันว่า ชื่อบ้านน่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่   ให้คล้องจองกับบ้านหนองปลาเข็ง "ว่ามีบ้านหนองปลาเข็ง  ก็น่าจะมีบ้านปลาข่อ (ปลาช่อน) จึงเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านปลาข่อ บุคคลที่ตั้งชื่อบ้านท่าแก้ง เป็นบ้านปลาข่อ คือพ่อใหญ่แสง  บุตรดี ราษฎรบ้านหนองปลาเข็ง

2. ที่ตั้งของหมู่บ้าน

          ทิศเหนือ          ติดต่อกับ         บ้านหัวเหล่า ตำบลบก  

          ทิศใต้             ติดต่อกับ          บ้านผักขะย่าใหญ่  ตำบลโพธิ์  

          ทิศตะวันออก     ติดต่อกับ        บ้านหนองปลาเข็ง  ตำบลโพธิ์  

          ทิศตะวันตก      ติดต่อกับ         ลำห้วยขะยุง และบ้านสะเต็ง อำเภอน้ำเกลี้ยง

3. สภาพภูมิประเทศ

          พื้นที่เป็นที่ราบสูง  มีลำห้วยขะยุงไหลผ่าน

4. จำนวนพื้นที่ของหมู่บ้าน  พื้นที่ของหมู่บ้านทั้งหมด 1,500 ไร่ แยกเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้

           - พื้นที่ทำการเกษตร    1,280  ไร่

           - พื้นที่อยู่อาศัย  200  ไร่

           - พื้นที่สาธารณะ    31  ไร่

          เอกสารสิทธิ์ที่ดินส่วนใหญ่ ประเภทโฉนด และน.ส.3

5. จำนวนครัวเรือนและประชากร

          - จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 109  ครัวเรือน

          - จำนวนประชากรทั้งหมด 665  คน แยกเป็นชาย  328 คน  หญิง  337  คน

แบ่งการปกครองออกเป็นคุ้ม  7  คุ้ม มีนายนายพิมพ์  ดาดี เป็นผู้ใหญ่บ้าน/กำนันตำบลโพธิ์

ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นรายได้หลัก  ทำการเกษตรเช่น  ปลูกข้าว ปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ เช่น  การเลี้ยงวัว  เลี้ยงไก่   ประชากรมีรายได้เฉลี่ย 38,299 บาท/คน/ปี   และมีรายจ่ายเฉลี่ย  17, 1๒๐บาท/คน

           บ้านปลาข่อ อยู่กันเสมือนพี่น้อง มีความรักความสามัคคี ความเอื้ออาทรกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ในชุมชน ภาษาที่ใช้คือภาษาอีสาน ประชาชนนับถือศาสนาพุทธ  มีวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ฮีตสิบสอง คลองสิบสี่ มีการทำบุญประเพณีทุกปี

 

 

การก่อเกิดเป็นศูนย์ฮ่วมแฮง ส่างแปงซุมซน (Village Management Warroom)

          บ้านปลาข่อ หมู่ที่ ๔ ตำบลโพธิ์ เป็นชุมชนขนาดกลาง (๑๐๙ ครัวเรือน) มีลำห้วยขะยูงเป็นแหล่งน้ำสำคัญหลักในการทำนา(ปลูกข้าวหอมมะลิ) มีผู้นำชุมชนทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการที่มีความรู้ความสามารถ ชุมชนมีความรักความสามัคคี เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน มีการร่วมมือช่วยกันขับเคลื่อนกิจกรรมการงานต่างๆ ในหมู่บ้านชุมชน โดยความร่วมมือระหว่างคนในชุมชน โรงเรียนบ้านปลาข่อ และวัดบ้านปลาข่อ ซึ่งมีหลวงตาโบ้ ท่านเจ้าอาวาสวัดเป็นแกนหลักสำคัญ ศูนย์รวมใจของราษฎรในหมู่บ้าน มีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมการพัฒนาหมู่บ้านทาง Facebook “หลวงตาโบ้ วัดบ้านปลาข่อ ซึ่งมีคณะลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศได้ให้ความสนใจติดต่อสื่อสารระหว่างกันและกัน

          บ้านปลาข่อ หมู่ที่ ๔ ตำบลโพธิ์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านต้นแบบการจัดการสารสนเทศเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ระดับอำเภอในปี ๒๕๕๗ จึงมีความพร้อมมากที่สุดในการเป็นศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศเพื่อการบริหารชุมชน โดยใช้ข้อมูล ประกอบด้วยข้อมูล จปฐ. กชช.๒ ค. และข้อมูลอื่นๆ ของชุมชน นำมาผ่านกระบวนการวิเคราะห์จากเวทีชุมชนเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจในการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน นำองค์ความรู้ที่ชุมชนต้องการและชุมชนมีอยู่จากภายในชุมชนและภายนอกชุมชน เสนอผ่านระบบสารสนเทศชุมชน  เพื่อให้การดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศเพื่อการบริหารชุมชน มีกลไกหลักในการขับเคลื่อน จึงได้จัดประชุมแกนนำหมู่บ้าน ส่วนราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และภาคีการพัฒนา เพื่อพิจารณาคัดเลือกคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการ ศูนย์ฮ่วมแฮง ส่างแปงซุมชน จำนวน ๑ คณะ ๑๗ คน และที่ปรึกษา จำนวน ๙ คน  โดยให้มีหน้าที่จัดเวทีวิเคราะห์ข้อมูล จัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อน ขับเคลื่อนกิจกรรมตามแผนงานโครงการ รวบรวมรายงานผลการปฏิบัติงาน และสรุปบทเรียนที่ได้ เพื่อจัดการความรู้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 

ด้านอาคาร/สถานที่ทำงาน ได้กำหนดศูนย์ปฏิบัติการศูนย์ฮ่วมแฮง ส่างแปงชุมชน จำนวน ๒ ศูนย์ คือ ๑) ศูนย์เทคโนโลยี่สารสนเทศ ที่โรงเรียนบ้านปลาข่อ ซึ่งจะมีระบบสื่อสารอิเลคทรอนิกส์ มีระบบ Wireless Network และมีบุคลากรที่มีความรู้ มีทักษะ และความชำนาญ อีกทั้งในโรงเรียนยังมีแหล่งเรียนรู้อื่นๆ เช่น ธนาคารขยะ การเพาะเห็ด การปลูกพืชสมุนไพรต่างๆ มีการจัดทำโครงงานต่างๆ โดยเด็กนักเรียน และ ๒) ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลสารสนเทศชุมชน ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน และเป็นสถานที่ประชุม พบปะ และร่วมทำกิจกรรมชุมชนของประชาชนในหมู่บ้าน

          คณะทำงานฯ ได้รวบรวมและนำเสนอข้อมูล จปฐ. ปี ๒๕๕๗ ซึ่งมีข้อมูลที่ตกเกณฑ์ตัวชี้วัดในข้อที่ ๒๕ คนในครัวเรือนไม่ดื่มสุรา ไม่ผ่านตัวชี้วัด จำนวน ๑ คน และตัวชี้วัดที่ ๒๖ คนในครัวเรือนไม่สูบบุหรี่ ไม่ผ่านตัวชี้วัด จำนวน ๗๓ คน)  ข้อมูล กชช.๒ค ปี ๒๕๕๖ ซึ่งระดับการพัฒนาของหมู่บ้าน จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ ๒ สภาพที่เป็นปัญหามาก คือด้านสภาพพื้นฐานทางเศรษฐกิจ คือผลผลิตจากการทำนาต่ำ ไม่มีการปลูกพืชไร่ พืชฤดูแล้ง และ ด้านการมีส่วนร่วมและความเข้มแข็งของชุมชน คือไม่มีการการเรียนรู้โดยชุมชน แล้วนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์ร่วมกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันของหมู่บ้านโดยกระบวนการประชาคม  จึงได้กำหนดแผนงานโครงการ/กิจกรรมที่จะแก้ไขปัญหาของชุมชน เช่น การรณรงค์ห้ามสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การรณรงค์จัดระเบียบหมู่บ้านโดยการรณรงค์การปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ (ผัก ๓ ชนิด ในกระถางยางรถยนต์) ทุกครัวเรือน และจัดการประกวดคุ้มเพื่อเทิดพระเกียรติพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ   ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ อันแสดงถึงการรวมพลังสร้างสามัคคีและความปรองดอง เพื่อน้อมถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

การกำหนดแนวทางการพัฒนาหมู่บ้านความต้องการของชุมชนจากกระบวนการเวทีประชาคม

             - แหล่งน้ำสาธารณะตื้นเขิน ขุดลอก ปรับปรุงทำความสะอาด

             - ถนนชำรุดสัญจรไปมาไม่สะดวก

             - ขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร

             - รนณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย ป้องกันการเกิดลูกน้ำยุงลาย

             - ทำความสะอาดคลองระบายน้ำกำจัดขยะมูลฝอย

             - ปรับปรุงภูมิทัศน์รอบหมู่บ้านให้เป็นเมืองน่าอยู่

          การกำหนดการพัฒนาอาชีพของหมู่บ้านการเรียนรู้ของ ผู้นำ องค์กร เครือข่าย 

            - สนับสนุนกลุ่มอาชีพต่างๆ

            - ศึกษาดูงานหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อนำมาพัฒนาสร้างอาชีพสร้างรายได้

            - กำหนดวาระแห่งชุมชนไปสู่การจัดทำแผนชุมชน  เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น

เป้าประสงค์   

  - ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรให้มีรายได้เสริมเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวดำรงชีวิตอย่างพอเพียง

ผลที่คาดว่าจะได้รับ   

  - บุคลากรในชุมชนมีการพัฒนาชีวิตที่ดีขึ้นชุมชนมีสุขภาพแข็งแรง เกษตรกรลดการใช้สารเคมี ผลผลิตปลอดสารพิษ หมู่บ้านปลอดลูกน้ำยุงลาย ไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุขอยู่ดีกินดีมีความสุข ตามแนวทางหลักปรัชญาของศรษฐกิจพอเพียง มุ่งสูชุมชนเข้มแข็ง

ผลจากการดำเนินงาน ศูนย์ฮ่วมแฮง ส่างแปงซุมซน ได้บังเกิดผลดีต่อชุมชน คือ

          ๑. มีแผนชุมชนที่สอดรับกับสภาพปัญหาของชุมชน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์แก้ไขปัญหาของชุมชนเองได้โดยตรง โดยคนในชุมชนเองร่วมกันดำเนินงานก่อนเป็นอันดับแรก

          ๒. ชุมชนมีความรัก ความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์

          ๓. มีศูนย์เรียนรู้ชุมชน และแหล่งเรียนรู้ชุมชน (บ้าน วัด โรงเรียน)

             - บ้าน มีภูมิปัญญา เช่น สานแห/สวิง ทอผ้า เพาะเห็ด

             - วัด มีแหล่งธรรม สมุนไพร ปลาช่อนอะเมซอน

             - โรงเรียน มีจุดเรียนรู้ IT ธนาคารขยะ โครงงานน้ำสมุนไพร การเพาะเห็ด

          ๔. มีการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารทางระบบอิเลคทรอนิกส์ และสื่อประชาสัมพันธ์อื่นๆ

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

          ๑. ผู้นำ มีภาวะผู้นำ

          ๒. มีศูนย์รวมน้ำใจชุมชน คือ หลวงตาโบ้ วัดบ้านปลาข่อ

          ๓. หน่วยงาน ผู้ปกครองท้องที่ ผู้ปกครองท้องถิ่น และภาคีการพัฒนา มีการบูรณาการงานร่วมกัน

          ๔. ชุมชนมีวิถีชีวิตแบบพอเพียง ดำรงตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

          ๕. ชุมชนมีความสามัคคี

         

         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น